UNC YG

แคลเซี่ยมจากกระดูกปลาดีอย่างไร

แคลเซี่ยมจากกระดูกปลาดีอย่างไร

แคลเซียมจัดเป็นอาหารเสริมที่สำคัญสำหรับร่างกาย ทั้งนี้เนื่องจากแคลเซียมมีผลโดยตรงต่อการ


เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก การขาดแคลเซียมส่งผลให้เกิดภาวะกระดูกพรุนอันอาจทำให้เกิดกระดูกหักและการติดเชื้อจนเสียชีวิตได้ในที่สุด

จากสถิติพบว่า ประมาณร้อยละ 25 ของประชากรที่กระดูกสะโพกหักจะเสียชีวิตหลังจากได้รับการรักษานาน 1 ปีอันเนื่องมาจากสภาวะแทรกช้อน

ดังนั้นการเสริมความแข็งแรงของกระดูกจึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตดังกล่าว

ปัจจุบันแคลเขียมที่จำหน่ายในท้องตลาดมักก่อให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ท้องผูก ท้องอืด หรือดูดซึม ได้น้อยจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ทั้งนี้เนื่องจากเป็นแคลเซียมที่ใช้ในอาหารเสริมส่วนใหญ่ คือ หินปูนที่สามารถละลายน้ำไต้ยาก ทำให้เกิตการดูดซึมไต้ไม่เต็มที่ รวมถึงยังก่อให้เกิดอาการข้างเคียงได้ ในขณะที่แคลเขียมที่ได้จากกระดูกปลา เป็นสารประกอบแคลเชียมฟอตเฟตที่เป็นองค์ประกอบของกระดูกที่เรียกกันว่า ไฮดรอกชีแอปาไทต์ (hydroxyapatite) ซึ่งเป็นรูปแบบที่พบอยู่ในกระดูกและฟันเป็นหลัก

นอกจากนี้ยังเป็นสารที่เข้ากับเนื้อเยื่อในร่างกายได้ดี เมื่อรับประทานแล้วมีโอกาสทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น ท้องผูก ท้องเฟ้อ ได้น้อยกว่าแคลเขียมในรูปแบบอื่น


ผลการศึกษาแคลเชียมที่สกัดได้จากกระดูกปลาของ บริษัท ยู้ ฟิชบอล จำกัด พบว่า ผงแคลเขียมที่สกัดได้สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชลล์กระดูกต้นกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยความเข้มข้นที่สูงขึ้นสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์กระดูก ต้นกำเนิดได้มากขึ้นด้วย อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์กระดูกตันกำเนิดได้มากกว่าสารควบคุมเชิงบวก (Q MEM) อีกด้วย

นอกจากนี้ยังพบการกระตุ้นการสร้างเอนไซม์อัลคาไลน์ฟอสฟาเตส (Alkaline Phosphatase, ALP) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้เบื้องตัน (early
marker) ของการเปลี่ยนแปลงเป็นเชลล์กระดูก และมีการหลั่งของแคลเซียมซึ่งจัดเป็นตัวบ่งชี้ระยะยาว (late maker) จากเชลล์มากขึ้นอีกด้วย โดยปริมาณแคลเซียมที่ถูกปลดปล่อยจากเซลล์ยังเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่เซลล์ใด้รับสารสกัดแคลเซียมดังกล่าว รวมถึงไม่แสดงความเป็นพิษต่อเซลส์เมื่อได้รับสารสกัดระยะยาว


ในส่วนของน้ำต้มกระดูกปลาที่มีเนื้อก็พบว่สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์กระดูกตันกำเนิดได้เช่นกัน รวมถึงยังสามารถกระตุ้นการหลั่งของเอนไชม์อัลคาไลน์ฟอสฟาเตสและแคลเซียมจากเชลล์กระดูกต้นกำเนิดได้ แม้ว่าจะไม่สูงเท่าสารสกัดผงกระดูกปลาก็ตาม แต่ปริมาณที่สร้างก็ใกล้เคียงกับแคลเซียมรูปแบบ
อื่นที่มีอยู่ในท้องตลาด

เมื่อนำน้ำต้มกระดูกปลามาทดสอบประสิทธิภาพในเซลล์ผิวหนัง (ทั้งนี้เนื่องจากน้ำต้มกระดูกปลาอาจมีส่วนประกอบของสารกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังได้) ผลการศึกษาพบว่า น้ำต้ม
กระดูกปลาที่มีเนื้อ สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังที่มีหน้าที่สร้างคอลลาเจน (fibroblast
cell) ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่แสดงความเป็นพิษต่อเซลล์ อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้สูงกว่าสารควบคุมเชิงบวก (DMEM) โดยเฉพาะในน้ำต้มปลาที่มีเนื้อปลาเป็นองค์ประกอบอยู่ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหนัง


ที่มา : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) และศูนย์เขียวชาญเฉพาะทางสารทรงฤทธิ์ชีวภาพ เพื่อนวัตกรรมทางคลินิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้