UNC YG

โรคไมเกรน (Migraine)

โรคไมเกรน (Migraine)

โรคไมเกรน (Migraine)
โรคไมเกรน (Migraine) รู้จักกันมานานตั้งแต่สมัย GALEN
คือ ราวสองพันปีมาแล้ว คำว่า ไมเกรน (Migraine)
นี้มาจากคำสองคำคือ HEMI + CRANIUM คำ HEMI แปลว่า
ครึ่งว่า ครึ่งซีก ส่วน CRANIUM แปลว่า ศีรษะหรือหัว
เมื่อคำสองคำมาผสมกีนเป็น HEMICRANIUM
แต่ยาวเกินไป จึงตัด “HE” ส่วนหน้าออก และ “IUM”
ส่วนหลังทิ้ง จึงเหลือ “MICRAN” ในภาษาลาติน
ภาษาอังกฤษมาแปลงใหม่เป็น MIGRANE ในภาษาไทยมีคำแปลว่า “โรคตะกัง”
แต่ไม่เป็นที่นิยมใช้กันแต่อย่างใด จึงมักเรียกทับศัพท์กันว่า “โรคไมเกรน (MIGRAINE)”


คือโรคที่เกิดจากการบีบตัว
และคลายตัวของหลอดเลือดแดงในสมองมากกว่าปกติ ทำ
ให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
พร้อมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ในบางราย
อาจมีอาการตาพร่ามัวหรือเห็นแสงระยิบระยับร่วมด้วย


เพราะเป็นภาวะที่หลอดเลือดแดงในสมองบีบตัว
และคลายตัวมากกว่าปกติ
ในคนปกติหลอดเลือดแดงเหล่านี้มีอยู่มากมายในสมอ
งจะมีการบีบตัวและคลายตัวอยู่เป็นประจำ
แต่ไม่มากจึงไม่ปวดหัว ในผู้ปวดไมเกรน (MIGRAINE)
บางคน กัว เคยมีคนชอบถามว่า เรามีพยาธิในสมองหรือป่าวเลย
ปวด head ขนาดนี้
จะไม่พบพยาธิใดๆ ในหลอดเลือดแดงของสมอง
จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอัมพาตหรือพิการแต่อย่างใด


อาการของโรคไมเกรน (MIGRAINE) ประกอบด้วยลักษณะต่างๆดังนี้:
1. ปวดศีรษะครึ่งซีก อาจป็นบริเวณขมับหรือท้ายทอย
แต่บางครั้งก็อาจเป็นสองข้างพร้อมกันหรือเป็นสลับข้างกันได้
2. ลักษณะการปวดศีรษะส่วนมากจะปวดตุ๊บๆ นานๆครั้ง
หรึอเกิน20นาที (ยกเว้นจะได้รับประทานยา)
แต่บางครั้งถ้าเป็นรุนแรง
อาจปวดนานเป็นวันๆหรือสัปดาห์ก็ได้ผู้ป่วยบางรายอาจ
มีปวดตื้อๆสลับกับปวดตุ๊บๆในสมองก็ได้
3. อาการปวดศีรษะมักรุนแรง และส่วนมากจะมีการคลื่นไส้
หรืออาเจียนร่วมด้วยเสมอ โดยอาจเป็นขณะปวดศีรษะ ก่
อนหรือหลังปวดศีรษะก็ได้ บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากจนรับประทานอะไรไม่ได้
4. อาการนำจะเป็นอาการทางสายตา
โดยจะมีอาการนำมาก่อนปวดศีรษะราว 10-20 นาที
เช่น เห็นแสงเป็นเส้นๆ ระยิบระยับ แสงจ้าสะท้อน
หรือเห็นภาพบิดเบี้ยวนำมาก่อน

มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้โรคไมเกรน(MIGRAINE) เป็นมากขึ้น ?
เป็นที่ทราบกันดีว่าตัวกระตุนหรือทำให้เกิดอาการของโรคไมเกรน(MIGRAINE) มากขึ้นได้แก่:
ดังนั้น ผู้ป่วยโรคไมเกรน (MIGRAINE)
จึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงภาวะต่างๆ เหล่านี้
ผู้ป่วยทุกคนต้องสังเกตตัวเองว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นการเกิดไมเกรน (MIGRAINE) ในตนเอง
เพื่อจะหลีกเลี่ยงและแก้ไข ได้ตรงจุด


13 สาเหตุของการปวดศีรษะไมเกรน
1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้หญิง
2. ความเครียด
3. แสงจ้าหรือแสงแฟลช เสียงดัง
กลิ่นที่รุนแรง
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแบบฉับพลัน
4. การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือมากเกินไป
5. ออกกำลังกายอย่างหักโหม
หรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากเกินไป
ทำงานมากเกินไป
6. การสูบบุหรี่
7. อาการถอนคาเฟอีน
8. การอดอาหาร หรือการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ
9. การอดนอน
10. การขาดการพักผ่อน หรือ
11. ขณะมีระดู
12. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์
13. อาหารบางชนิดเช่น กล้วยหอม เนยแข็ง และช็อกโกแลต

วิธีอื่นๆ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการและป้องกันการปวดศีรษะไมเกรน
• ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
• หลีกเลี่ยงปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการปวดศีรษะไมเกรน
• นอนพักในที่มืดและเงียบสงบ
• ประคบเย็นบริเวณศีรษะ
• ปรับพฤติกรรมการนอน และการรับประทานอาหาร
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
โรคไมเกรน
ไม่ได้เหมือนโรคปวดศีรษะทั่วไป
แต่เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติ
เกิดจากสาเหตุ

1 พันธุกรรม ผิดปกติ
2 ฮอร์โมน
3 ความเครียด
4 การอักเสบในร่างกาย

นักวิจัยที่ประเทศสหรัฐ ได้ศึกษา
ผู้ป่วยไมเกรน มีอาการปวดหัวเรื้อรัง
คลื่นไส้ และ มีปัญหาด้านสายตา
มักจะมีน้ำหนักเกิน

มีเซลล์ไขมัน ที่สะสมอยู่ตามพุง
ต้นขา หรือแม้กระทั่งไขมันจากแก้ม
มีสารที่ชื่อว่า ADIPONECTIN

สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยา
การอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุของ
การเกิดอาการปวดศีรษะเรื้อรัง

ยาแก้ปวดบางชนิด
สามารถเพิ่มปัจจัยเสี่ยง
ในการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและหัวใจ

การกินยาไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
บางคนกินยาเข้าไปแล้วอาการปวด
ส่งผลกระทบต่อตับและไตตามมาในภายหลัง
***คนไข้บางคนที่ไม่สามารถกินยาแก้ปวด
เนื่องจากมีโรคประจำตัว
เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ยาจึงไม่ใช่ทางออกเสมอไป***

อาหารต้องห้าม
เช่น อาหารแปรรูป อย่างไส้กรอกรมควัน ที่มีส่วนผสมของสารกันบูด
อาหารประเภทหมักดอง ผงชูรส น้ำตาลเทียม ผลไม้บางชนิด
เช่น กล้วย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ไวน์แดง เบียร์
กาเฟอีน กาแฟ ชา โกโก้
น้ำอัดลม ตลอดจนชีสและผงชูรส
ผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงมีรอบเดือน

ถ้าถามว่า ทาน.เอวาช่วยมั๊ย ก็ช่วยนะคะ. โคเอนไซม์คิว 10 บี. 6
วิตามินอี ที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง ป้องกันการเกิดไมเกรนในช่วงรอบเดือน และยังช่วยปรับระบบการไหลเวียนเลือด มีแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมสูงอีกด้วย


โรคไมเกรน แนะนำให้ทาน
UNC CALCIUM PLUS & UNC Your Begin และ UNC I Care


1. • UNC Calcium Plus อุดมไปด้วย
แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส
กระดูกอ่อนจากปลาฉลาม
ซิงค์ โมโนเมไธโอนีน
วิตามินซี
คอลลาเจนไตรเปปไทด์ จากปลาทะเล
วิตามิน เค ทู
ไอรอน อะมิโน แอซิด คีเลต (ธาตุเหล็ก)
ซีลีเนียม อะมิโน แอซิด คีเลต
คอปเปอร์ กลูโคเนต (ทองแดง)
โบรอน อะมิโน แอซิด คีเลต
แมงกานีส
แมกนีเซียม
วิตามิน ดี
หากท่านรับประทานสารเหล่านี้เพียงพอโดยเฉพาะ
วิตามินดี และ แมกนีเซียม
จะช่วยป้องกันการเกิดไมเกรน

ด้วย แมกนีเซียม มีส่วนช่วยให้หลอดเลือดยืดหยุ่น
ป้องกันอาการปวดไมเกรนได้
ในเวลาที่กำลังปวดหัวข้างเดียว
ระบบการดูดแมกนีเซียม
จะลดน้อยลงไปด้วย
ดังนั้นการกินอาหารที่มีแมกนีเซียม
จะช่วยลดความรุนแรง
และความถี่ของอาการปวดไมเกรนได้

1. • UNC I CARE อุดมไปด้วย OMEGA 3 DHA EPA
จากงานวิจัยของ Harvard Medical School
พบว่า ผู้ป่วยไมเกรน ที่มีภาวะเครียด
มีอารมณ์ดีขึ้นหลังจากได้ รับอาหารเสริม. DHA

ก็อุดมไปด้วยไขมันโอเมก้า 3
มีคุณสมบัติลดอาการปวด อาการอักเสบ
และช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาท
มีการศึกษาพบว่า การทานโอเมก้า 3
เป็นประจำในปริมาณที่เพียงพอ
ช่วยลดความถี่ของการปวดหัวไมเกรนลงได้


• • UNC Your Begin อุดมไปด้วย สารสกัดจากธรรมชาติ งาดำ หญ้าหางม้า และ โรสแมรี่
วิตามินซี วิตามิน บี 5 และ วิตามินบี 6
ซึ่งการทานวิตามินซีร่วมกับ วิตามินบี5
จะช่วยป้องกันอาการปวดไมเกรนได้
จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองลง 27 %
แต่หากเป็นการบริโภคในปริมาณที่สูง
จะช่วยในลดความถี่และความรุนแรง
ของโรคปวดศีรษะไมเกรน




ใบบัวบก
ลดอาการร้อนใน
ลดภาวะเลือดข้นไหลเวียนไม่ดีนั่นเอง
นั่นเลยหมายถึงว่าคนที่มีอาการปวดศีรษะบ่อยๆ
เพราะเลือดไม่ไหลเวียน ร้อนใน ดื่มน้ำน้อย
หรือมีภาวะความดันสูง การกินใบบัวบกจะช่วยลดภาวะร้อนใน
ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น


**ยังมีสารที่ออกฤทธิ์กับสมอง ลดความเครียด ความวิตกกังวล ***
มีสารต้านอนุมูลอิสระ สร้างสมดุลสื่อประสาท
ทำงานคล้ายคุณสมบัติของใบแปะก๊วย



ผักโขม
ผักที่มีโปรตีน และแคลเซียมสูงมาก
ในผักโขมยังมีสารที่ช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนเลือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบสมองและหัวใจ
ลดคอเลสเตอรอลและความดัน
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดศีรษะ
ในผู้ป่วยความดันสูง หรือคอเลสเตอรอลสูง


นอกจากนี้แล้ว วิตามินบี 6 จะช่วยลดอาการปวดไมเกรนลงได้
หากร่างกายได้รับวิตามินบี 6
เพิ่มก่อนจะเป็นประจำเดือน 5-10 วัน
จะช่วยลดอาการปวดไมเกรนช่วงมีประจำเดือน





โรคปวดศีรษะที่พบบ่อย ไม่ได้มีแค่ Migrain
1. Office Syndrome >> ปลายประสาท >> หมอนรองกระดูกต้นคอทับเส้น
2. Migraine ไมเกรน
3. Tension Headache ที่เกิดจากความเครียด
• อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ทราบว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นของไมเกรนอย่างชัดเจน
• แต่ก็สามารถหาวิธีป้องกันได้ ด้วยการสำรวจและดูเเลตนเอง
• พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย
• ลดอาหารที่อาจจะมีสารกระตุ้น ได้แก่ คาเฟอีน, ชีส,
• ผงชูรส พร้อมทั้งอาจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
• ให้พบกับความเครียด ที่น้อยลง
• เพื่อการใช้การดูเเลตัวเองให้ห่างไกล จากไมเกรน
• และอีกสาระพัดโรค ที่จะเกิดขึ้นได้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้